คุณสมบัติของผ้า
ผ้า TK
ผ้าใยสังเคราะห์ (Polyester) คือเส้นใยสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้น
เกิดจากสารประกอบโพลีเมอร์ โดยมีลักษณะและคุณสมบัติ ดังนี้
-
คืนรูปง่าย ดูแลรักษาง่าย อยู่ทรง ไม่ค่อยหดและย้วย
-
สีค่อนข้างสด และซีดยาก
-
ซับเหงื่อได้ดี สวมใส่สบาย
-
ราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับผ้าชนิดอื่นๆ
ผ้า TC
เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของ Cotton ช่วยเพิ่มความนุ่มให้กับ Polyester
ในสัดส่วน Polyester 65% Cotton 35% มีลักษณะและคุณสมบัติดังนี้
-
มีความนุ่มกว่าผ้า TK เนื่องจากมีส่วนผสมของผ้า Cotton
-
ระบายความร้อนได้ระดับหนึ่ง สวมใส่สบาย
-
เนื้อผ้าซับเหงื่อดีพอใช้ เมื่อเทียบกับผ้า TK
ผ้า CVC
เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของ Cotton 80% Polyester 20% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ทำให้ได้คุณสมบัติผ้าที่ดีขึ้นเนื่องจากเป็นการนำเส้นใยธรรมชาติ(Cotton) มาผสมผสานกับเส้นใยสังเคราะห์(Polyester) โดยลักษณะผ้าและคุณสมบัติผ้า ดังนี้
-
เนื้อผ้าแน่น และนุ่ม เนื้อผ้ามีความละเอียด ใส่สบาย
-
เนื้อผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง ระบายอากาศได้ดี ดูดซับเหงื่อได้ดี
ผ้า Cotton 100%
เป็นเส้นใยธรรมชาติ 100% แล้วนำมาทอเป็นผืนผ้า โดยแบ่งคุณภาพของผ้า Cotton สามารถแบ่งได้ ดังนี้
1.การแบ่งตามชนิดของเบอร์เส้นด้าย สามารถจำแนกได้ 3 เบอร์ ดังนี้
-
Cotton 100% ที่ใช้เส้นด้าย No.20 ถือเป็นเส้นด้ายที่มีขนาดใหญ่กว่าเส้นด้ายเบอร์ 32 ลักษณะเนื้อผ้าจึงมีความหนาและแข็งกว่าผ้าCotton 100% เบอร์32
-
Cotton 100% ที่ใช้เส้นด้าย No.32 มีลักษณะนุ่ม และใส่สบายกว่า เบอร์ 20 จึงนิยมใช้ทำเป็นเสื้อยืดมากกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
-
Cotton 100% ที่ใช้เส้นด้าย No.40 ซึ่งถือเป็นเส้นด้ายที่มีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่จึงต้องสั่งทอพิเศษ เพราะต้องอาศัยการผลิตจากเครื่องจักรและเป็นการผลิตที่ยุ่งยากและสลับซับซ้อน ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่สูง ดังนั้น หากเรานำมาผลิตเสื้อยืดก็จะทำให้มีต้นทุนที่สูงตาม จึงยังไม่เป็นที่พบเห็นในท้องตลาดเท่าที่ควร
2.การแบ่งตามกระบวนการผลิตเส้นด้าย
เป็นการแบ่งตามคุณภาพของการเรียงตัวของเส้นด้าย ที่วัดจากสม่ำเสมอ ความหนาแน่น และความสะอาดของเส้นใย เพื่อได้เส้นด้ายที่มีคุณสมบัติที่ดีเมื่อนำไปทอเป็นผืน โดยการแบ่งคุณภาพดังกล่าวนี้ เราจะเริ่มกันตั้งแต่ กระบวนการผลิต / พันธุ์ของฝ้ายที่เลือกใช้ / การคัดแยกคุณภาพหลังเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ได้เกรดผ้าฝ้าย 3 เกรด ดังนี้
-
Cotton OE เป็นผ้าที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย ทำให้ผ้าชนิดนี้มีความทนทานค่อนข้างต่ำ ขาดง่าย
-
Cotton Semi เป็นผ้าที่ได้จากการผ่านกระบวนการคัดคุณภาพของเส้นใยฝ้าย โดยวิธีการสางเส้นใยฝ้ายโดยใช้เครื่องจักร ทำให้ได้เส้นด้ายใยสั้นที่มีขนาดเบอร์20-32 ซึ่งทำให้ผ้ามีความนุ่มขึ้นกว่า OE
-
Cotton Comb เป็นการคัดคุณภาพของเส้นใยโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่มีความละเอียดและซับซ้อนกว่าแบบสาง ส่งผลให้ได้เส้นด้วยที่มีขนาดเล็ก (คือเบอร์32ขึ้นไป) อีกทั้งกระบวนการดังกล่าว ยังสามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยได้มาก จึงได้เส้นด้ายที่มีเส้นใยยาวกว่า เมื่อนำมาทอผ้าเป็นผืน จึงได้ผ้าที่มีเนื้อนุ่ม เหนียว และทนทานขาดยากกว่ากว่า OE และ Semi